เลมอน สรรพคุณและประโยชน์ของเลมอน 22 ข้อ ! (Lemon)
เลมอน
เลมอน ชื่อสามัญ Lemon (อ่านว่า เล-ม่อน)
เลมอน ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus limon (L.) Osbeck (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Citrus × limonum Risso, Citrus × limonia Osbeck) จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)
เลมอน (อ่านว่า เล-ม่อน) มีชื่อเรียกอื่นว่า มะนาวเทศ, มะนาวฝรั่ง, มะนาวนมยาน
เลมอนเป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในตระกูลส้ม มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ปลายยอดมีหนามแหลม ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยว เมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นหอมแรง ส่วนลักษณะของดอกเลมอน ดอกมีกลิ่นหอม และมีสีขาว ส่วนลักษณะของผลเลมอน เป็นรูปกลมรี ที่ปลายผลจะมีติ่งแหลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ในผลมีเมล็ดหลายเมล็ด เนื้อผลฉ่ำน้ำและมีรสเปรี้ยว
เลมอน กับ มะนาว อย่าจำสับสนกันนะครับ เพราะมันคือคนละชนิดกัน เลมอนคือมะนาวนมยาน (สีเหลือง) ใช้คำว่า Lemon ส่วนมะนาวลูกเขียว ๆ กลม ๆ เล็ก ๆ ที่เราคุ้นเคยกันนั้นมันคือมะนาวหรือ Lime (ไลม์)
คำแนะนำ เนื่องจากเลมอนมีฤทธิ์เป็นกรดและอาจทำลายเคลือบฟันได้ ดังนั้นควรเจือจางด้วยน้ำก่อการนำมาใช้ และก่อนการนำมาใช้ทุกครั้งควรล้างทำความสะอาดให้ดีเสียก่อน

คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากเลมอน
- น้ำเลมอนช่วยต้านทานอนุมูลอิสระและก็สร้างเสริมภูมิต้านทานโรค คุ้มครองปกป้องหวัด
- เลมอนมีสารที่ช่วยต้านทานโรคมะเร็งอยู่หลายประเภท
- ช่วยคุ้มครองรวมทั้งรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
- เลมอนมีวิตามินพี ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เส้นโลหิตแข็งแรง
- มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง
- น้ำเลมอนช่วยทำนุบำรุงตับและก็กระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากเพิ่มขึ้น ก็เลยทำให้ระบบการทำงานด้านการย่อยอาหารปฏิบัติงานได้อย่างปกติตลอดวัน
- ช่วยชำระล้างไส้ กำจัดของเสียที่หลงเหลืออยู่ในไส้
- ช่วยขับลมในไส้ (เปลือก)
- ช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง (เปลือก)
- ช่วยลดขนาดแล้วก็ละลายก้อนนิ้วในถุงน้ำดีและก็ไตให้ขับออกมาทางเยี่ยว
- ช่วยลดจำนวนของกรดฟอสฟอริกในเยี่ยวให้ลดลงจาก 1% เหลือ 0.13% ซึ่งมีผลดีต่อร่างกาย
- ช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรีย
- ความเปรี้ยวและก็ความเป็นกรดของเลมอนถูกเอาไปใช้สำหรับเพื่อการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ต่างๆเพื่อตอบแทนกรดจำพวกอื่นที่แพงสูงขึ้นมากยิ่งกว่า
- บางครั้งบางคราวก็มีการนำเปลือกหรือกากมาใช้ทำเป็นของกินและก็ขนมหวาน
- ความเปรี้ยวของเลมอนสามารถประยุกต์ใช้กำจัดกลิ่นคาวปลา ทำให้รสกลมกล่อมละมุนละไมมากเพิ่มขึ้น แถมยังช่วยแก้มันได้อีกด้วย
- เปลือกเลมอนมีฤทธิ์สำหรับการช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียได้ รวมทั้งได้มีการประยุกต์ใช้เป็นส่วนประกอบในสินค้าชำระล้าง น้ำยาที่เอาไว้สำหรับล้างจาน
- เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและก็แบคทีเรีย ได้แก่ รอบๆผ่าม่าน ประพรม โซฟา หรือเครื่องเรือนต่างๆ
- เลมอนมีผลดีช่วยจัดการกับรอยคราบแล้วก็กลิ่นบนเขียงที่พวกเราใช้รองหั่นผักผลไม้ เนื้อสัตว์ เพียงฝานเลมอนออกเป็นครึ่งลูก แล้วบีบน้ำลงบนเขียง ต่อจากนั้นก็ใช้เปลือกเลมอนนี่แหละขัดๆเช็ดๆไปเรื่อยเช็ดเสร็จก็ปล่อยทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก
- ช่วยจัดการกับรอยคราบกาแฟในกาต้มที่ล้างออกยาก ด้วยการนำเลมอนมาหั่นและจากนั้นจึงนำไปต้มกับน้ำที่สะอาดในกาต้มกาแฟจนถึงเดือด เสร็จแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วนำกาต้มไปล้างชำระล้าง รอยเปื้อนที่ฝังแน่นอยู่ก็จะหลุดออกมาอย่างราบรื่น
- ช่วยจัดการกับรอยคราบสบู่ในสุขาตามขอบประตูหรือฉากกันส้วม ด้วยการใช้เลมอนฝานแล้วก็ใช้เบกกิงน้ำโซดาใส่ลงบนเลมอนน้อย แล้วเอามาขัดๆเช็ดๆตรงที่มีรอยเปื้อนสบู่ เสร็จแล้วให้ล้างด้วยน้ำที่สะอาดอีกรอบก็จะมีผลให้ห้องสุขาของคุณกลับมามีความสะอาดผ่องใสอย่างเดิมอีกรอบ
- ช่วยชำระล้างคราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรก เชื้อโรคตามเคาน์เตอร์ โดยใช้เลมอนฝานผสมเบกกิงน้ำโซดา แล้วเอามาเช็ดบริเวณที่มีคราบ เสร็จแล้วให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆมาถูชำระล้างอีกที (ไม่สมควรใช้กับพื้นที่เป็นสแตนเลสหรือพื้นหินอ่อน เนื่องจากจะมีผลให้สีซีดจางได้)
มีการเอามาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย - เดี๋ยวนี้เครื่องดื่มที่สร้างจากเลมอนหรือใช้เพื่อการแต่งกลิ่นก็มีอยู่เยอะมากหลายแบรนด์พอควร ไม่ว่าจะเป็น น้ำเลมอน น้ำอัดลม เครื่องดื่มค็อกเทล ฯลฯ
- พลังงาน 29 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 9.32 กรัม
- น้ำตาล 2.5 กรัม
- เส้นใย 2.8 กรัม
- ไขมัน 0.3 กรัม
- โปรตีน 1.1 กรัม
- วิตามินบี 1 0.04 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 2 0.02 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 3 0.1 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 5 0.19 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม 6%
- วิตามินบี 9 11 ไมโครกรัม 3%
- โคลีน 5.1 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินซี 53 มิลลิกรัม 64%
- ธาตุแคลเซียม 26 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม 5%
- ธาตุแมกนีเซียม 8 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมงกานีส 0.03 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุฟอสฟอรัส 16 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 138 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุสังกะสี 0.06 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

ผิวสวยด้วยเลมอน
- สูตรดีท็อกซ์ ช่วยล้างพิษภายในร่างกาย ด้วยการใช้น้ำเลมอน น้ำผึ้ง น้ำอุ่น ผสมรวมกันแล้วดื่มบ่อยๆทุกยามเช้า ก็จะช่วยกระตุ้นไส้ให้ปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพแล้วก็ช่วยกำจัดของเสียภายในร่างกายออกด้วย
- สูตรบำรุงผิวกายให้ผ่องใสแจ่มใส ด้วยการใช้น้ำเลมอนครึ่งถ้วย เอามาผสมกับน้ำในอ่าง แล้วนอนแช่ราวๆ 20 นาที ก็จะช่วยบำรุงรักษาผิวทำให้ผิวผ่องแผ้วผ่องใสเยอะขึ้น
- สูตรบำรุงผิวแห้งกระด้าง ช่วยเพิ่มความชื้นให้แก่ผิว ด้วยการใช้น้ำเลมอน น้ำผึ้งน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะกอก อย่างละเท่าๆกัน เอามาผสมกันแล้วเอามาทาบริเวณผิวหรือหน้าทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 10 นาทีและหลังจากนั้นก็ค่อยล้างออก
- สูตรลดสิวตัน สิวหัวดำ ด้วยการใช้น้ำเลมอนแต้มบางๆรอบๆที่เป็นสิวตัน ทาทิ้งเอาไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกโดยทันทีหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วรุ่งอรุณ ทำบ่อยเป็นประจำสิวตันก็จะลดน้อยลงอย่างชัดเจน
- น้ำมันเลมอนสูตรสครับผิวหน้า ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวพรรณแจ่มใสเพิ่มขึ้น ด้วยการใช้เลมอนฝานบางๆเอามาแตกกับน้ำตาลเกล็ดเล็กๆแล้วก็ใช้นวดเบาๆรอบๆผิวหรือบริเวณใบหน้า หรือจะเพิ่มน้ำอุ่นน้อยเพื่อสครับผิวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นก็ได้
- สูตรดูแลรักษาผมแห้งเสีย โดยใช้น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย น้ำมันที่สกัดจากมะกอก 3/4 ถ้วย ผสมรวมกับแล้วเอามาทาบนเส้นผมที่แฉะ แล้วก็ใช้หวีซี่ห่างหวีผมเพื่อช่วยกระตุ้นให้เส้นผมซึมสารบำรุงในเลมอนเจริญเพิ่มขึ้นเมื่อหวีเสร็จให้หมักทิ้งเอาไว้ราว 30 นาที แล้วล้างออกพร้อมสระผมตามธรรมดา
- สูตรกำจัดรังแค ด้วยการใช้น้ำเลมอน 3 ช้อนโต๊ะ ผสมไข่ขาว 1 ฟอง เอามานวดรอบๆหนังหัวแล้วหมักทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วล้างออก และก็เพื่อได้ประสิทธิภาพที่ดี ควรจะทำบ่อยเป็นประจำเดือนละ 1-2 ครั้ง
- สูตรลดปัญหาผมมัน ด้วยการใช้น้ำเลมอน 2 ผลผสมกับน้ำแล้วเอามาล้างผมภายหลังสระผมเสร็จ ก็จะช่วยลดความมันบนหนังหัวได้
- สูตรบำรุงเล็บ ช่วยให้เล็บงามมีสุขภาพแข็งแรงและก็แข็งแรงเป็นเงาสวย โดยแนวทางการก็ไม่ยากแค่เพียงใช้ปลายนิ้วจุ่มลงน้ำเลมอนให้เปียก ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 10 นาที แล้วขัดเล็บด้วยแปรงขนอ่อน เสร็จแล้วให้นวดเล็บรวมทั้งบริเวณรอบๆด้วยส่วนประกอบน้ำอุ่น 1/2 ช้อนโต๊ะแล้วก็ไวน์ 1/3 ช้อนโต๊ะ แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), กระปุกดอทคอม, หนังสือผลไม้ในเมืองไทย (เศรษฐมันตร์ กาญจนกุล)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai)
Credit: medthai.com